วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

ไดเอ็ตชิลล์ ๆ สไตล์อาทิตย์อุทัย


Okinawa Diet ไดเอ็ตชิลล์ ๆ สไตล์อาทิตย์อุทัย (Lisa)

          แผนไดเอ็ตแบบโอกินาว่านั้นมีรากฐานมาจากอาหารการกินของชาวโอกินาว่า ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีอายุยืนที่สุดในโลก และมีค่าเฉลี่ย BMI (ดัชนีมวลกาย) ค่อนข้างต่ำ (20.4 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป 18.5-24.9) แผนไดเอ็ตนี้ไม่ได้รับรองว่า คุณจะอายุยืนเกินร้อยปี แต่เป็นแผนที่ดีสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักด้วยโภชนาการที่สมดุล

 แคลอรีน้อย ๆ

          การจำกัดแคลอรีก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ แต่คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกหิวโหย มีรายงานว่า ชาวโอกินาว่ากินน้อยกว่าคนญี่ปุ่นทั่วไปประมาณ 500 แคลอรี แต่แคลอรีที่เขารับเข้าไปนั้นล้วนแต่อุดมด้วยสารอาหารและทำให้อิ่มเพียงแค่ 80% เท่านั้น

          ดังนั้น แผนการไดเอ็ตแบบโอกินาว่าจึงต้องใช้เวลา 8 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนเข้ากับไลฟ์สไตล์ดังกล่าว โดยที่น้ำหนักจะค่อย ๆ ลดสัปดาห์ละประมาณครึ่งปอนด์ (รวมเป็น 4 กิโลกรัม หากคุณทำสำเร็จ) อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายก็สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง หรือขี่จักรยาน ก็สามารถทำให้ร่างกายคุณเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วย

 ปริมาณเท่าเดิมแต่อาหารเปลี่ยนไป

          เราบอกไปข้างต้นว่า แคลอรีจะต้องน้อยลง แต่ปริมาณอาหารนั้นยังคงเท่าเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือประเภทของอาหาร แต่ละมื้อจะต้องประกอบไปด้วยอาหารสี่กลุ่มคือ

          เฟเธอร์เวท : มีแคลอรีน้อยที่สุด ได้แก่ ผักใบเขียวเป็นอาหารหลัก
          ไลท์เวท : มีแคลอรีสูงขึ้นมาอีกนิด ได้แก่ ข้าวไม่ขัดสี คู่กับอาหารหลัก
          มิดเดิลเวท : แคลอรีปานกลาง เช่น เนื้อแดง เนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดหนัง กินได้บ้างแต่ไม่มากนัก
          เฮฟวี่เวท : แคลอรีสูงที่สุด ได้แก่ อาหารต่าง ๆ ทั้งที่มีมันและอาหารทอดกินได้บ้างเฉพาะบางมื้อ

 ออกกำลังกายก็ยังสำคัญอยู่
 
          ทั้งนี้ แผนการไดเอ็ตดังกล่าวยังต้องใส่จิตวิญญาณของซามูไรเข้าไปด้วย นั่นคือกินช้า ๆ เพ่งสมาธิไปที่รสและสัมผัสของอาหาร นี่จะทำให้คุณอิ่มเร็วกว่าเดิม และการใช้ภาชนะเล็ก ๆ ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่อาจจะทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้นด้วย

 ข้อดี

           นอกจากจะช่วยลดน้ำหนัก โภชนาการที่ดียังทำให้ร่างกายคุณแข็งแรงและไม่มีโรคภัย
           การจำกัดแคลอรีแต่โภชนาการไม่เสียสมดุลอาจทำให้คุณอายุยืน
           อาจกลายเป็นไลฟ์สไตล์การกินตลอดชีวิตเลยก็ได้

 ข้อเสีย

           ไม่เหมาะกับคนที่ใจร้อนอยากลดน้ำหนักเร็ว ๆ เพราะเป็นแผนในระยะยาวมากกว่า
           หากคุณคนตัดสินใจจะกินอาหารแบบญี่ปุ่นเลย ก็ต้องคอยระวังโซเดียมที่อาจให้ผลข้างเคียงคือความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



สุดท้ายผมขอฝากเรื่องข้อต่อและกระดูกไว้ด้วยครับ
เพราะปัจจุบันนี้โรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก
เป็นภัยเงียบที่น่ากลัวผมไม่อยากเห็นเพื่อนๆ
หรือคนที่เพื่อนๆรักป่วยเป็นโรคเหล่านี้
เพราะมันอาจจะรุนแรงถึงขั้นเดินไม่ได้เลยนะครับ
ยังไงผมก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย
ด้วยความห่วงใยจากผม
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ
สวัสดีครับ
สนใจแนวทางป้องกัน ดูแลสุขภาพของข้อเข่าและข้อต่อต่างๆในร่างกาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น