วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

8 อาหารย่อยยากสุด ๆ

อาหาร


8 อาหารย่อยยากสุด ๆ 

          ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ บางทีปัญหาการขับถ่ายอาจเกิดจากอาหารย่อยยากที่เราคาดไม่ถึงก็ได้นะ
1. น้ำมะนาวหรือน้ำส้ม
          เครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรดอาจทำให้หลอดอาหารระคายเคือง กระตุ้นเซลล์ประสาทให้รู้สึกอักเสบรุนแรงยิ่งขึ้น จนรู้สึกคล้ายกรดไหลย้อน (แต่ความจริงก็แค่ระคายเคือง) แถมปริมาณกรดมากมาย อาจทำให้เกิดปัญหาอื่น สมมติว่าคุณยังไม่ได้กินอะไร แต่ดื่มน้ำส้มไปแก้วใหญ่ ๆ ตอนเช้า กระเพาะอาหารที่เต็มไปด้วยกรดอยู่แล้วก็จะได้รับกรดเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้น จำนวนที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะทำให้คุณปวดกระเพาะได้ ส่วนคนที่ชอบน้ำมะนาวแต่ใส่น้ำเชื่อมข้าวโพดเยอะ ๆ ก็ต้องระวังท้องร่วงด้วยนะ

2. ช็อกโกแลต

          ส่วนใหญ่แล้วปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพราะคุณกินช็อกโกแลต แต่เป็นเพราะว่าคุณกินมากเกินไปต่างหาก อย่างราวนี่หนึ่งชิ้นอาจเป็นของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดี แต่บราวนี่สามชิ้นหรือช็อกโกแลต ฟองดูนั้นอาจมากไปนิดนึง หากคุณเป็นโรคกรดไหลย้อน (GERD) ช็อกโกแลตอาจเป็นปัญหาสำหรับคุณได้แม้ในปริมาณนิดเดียว นี่เป็นเพราะช็อกโกแลตทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายออก กรดในกระเพาะก็จะไหลย้อนกลับขึ้นมาได้

3. บร็อกโคลี่ และกะหล่ำปลีดิบ

          จริงอยู่ที่ผักเหล่านี้มีทั้งใยอาหารสารอาหาร และก็ดีต่อสุขภาพของคุณมาก ๆ แต่พวกมันก็อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะได้ ทางแก้นั้นง่ายมาก เพียงนำมาปรุงอาหารให้ผ่านความร้อนหรือแม้แต่ลวกเพียงเล็กน้อย ก็จะช่วยสลายสารซัลเฟอร์ที่ทำให้เกิดแก๊สได้แล้ว

4. มันบดและไอศกรีม

          หน้าตาเหมือนเป็นของย่อยง่าย แต่ถ้ากินเข้าไปแล้วรู้สึกกระเพาะปั่นป่วน เริ่มมีอาการท้องอืดมีแก๊สในกระเพาะเยอะ และเริ่มผายลมจนห้ามไม่ได้ นั่นล่ะคือสัญญาณบอกว่าร่างกายของคุณอาจแพ้แล็กโตส และต่อให้คุณปกติดี การกินไอศกรีมหรือมันบดที่มีครีมเยอะ ๆ ก็อาจเป็นปัญหาอยู่ดี เนื่องจากมันมีไขมันสูง และไขมันก็ย่อยยาก จึงอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าอาหารอื่น ๆ ไง

5. นักเก็ตไก่

          ทุกครั้งที่คุณคลุกอาหารเข้ากับแป้งแล้วนำไปทอด คุณได้เปลี่ยนอาหารชิ้นนั้นให้กลายเป็นของย่อยยากที่สุด โดยของทอดมักจะมันและมีไขมันสูง ซึ่งทำให้มันเป็นปัญหาสำหรับกระเพาะของเรา ยิ่งถ้าคุณมีโรคลำไส้อักเสบร่วมด้วย ของทอดมัน ๆ อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้คุณคลื่นเหียน อาเจียน ดังนั้น สำหรับคนที่ชื่นชอบนักเก็ตจริง ๆ ลองหันมาอบนักเก็ตจะดีกว่าทอด แต่ถ้าจะให้ดีก็ใช้เนื้ออกไก่คลุกแป้งทำดีกว่าซื้อนักเก็ตแช่แข็งมาทอด

6. หัวหอมดิบ

          
หัวหอมและเพื่อนร่วมก๊วนอย่างกระเทียม ต้นหอม และ Shallot นั้นมีไฟโตนิวเทรียนต์ ซึ่งบางชนิดให้คุณแก่สุขภาพและดีต่อหัวใจของคุณ ส่วนบางชนิดจะทำให้ปวดท้อง จริงอยู่ที่หัวหอมที่ผ่านความร้อน แล้วอาจมีสารดังกล่าวน้อยลง แต่ในขณะเดียวกันความร้อนก็จะสลายสารอาหาร ทำให้คุณค่าของหัวหอมลดลง ถ้าให้ดีจึงควรกินหัวหอมดิบผสมกับหัวหอมที่ผ่านการปรุงสุกแล้วจะดีกว่า

7. ถั่ว

          เป็นที่ทราบกันดีกว่าการกินถั่วมากจะทำให้ผายลม สาเหตุเนื่องมาจากเอนไซม์ที่ย่อยถั่วได้นั้น จะพบได้ในเฉพาะแบคทีเรีย ซึ่งมีชีวิตอยู่ในกระเพะอาหาร และถ้าคุณไม่กินถั่วเป็นประจำ คุณอาจมีเอนไซม์ไม่เพียงพอต่อการย่อยถั่ว ผลก็คือจะเกิดแก๊สแล้วท้องก็จะอืด ดังนั้น ก่อนกินถั่วก็ให้ผ่านความร้อนนาน ๆ หรือไม่ก็กินบ่อย ๆ จะได้มีเอนไซม์เตรียมไว้ย่อยถั่ว

8. หมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล

          Sorbitol คือสารชนิดหนึ่งที่มักใช้เป็นส่วนประกอบในขนมหวานสูตรไม่มีน้ำตาล เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม มันอาจเป็นสาเหตุของแก๊สในกระเพาะอาหาร ดังนั้น ก่อนจะซื้อหมากฝรั่งมาเคี้ยวก็ลองพลิกฉลากมาดูก่อน หากมี Sorbital มากกว่า 10 กรัม นั่นก็แสดงว่ามันยากต่อการย่อยแน่ ๆ

นวดตัวเองคลายเครียด


นวดตัวเองคลายเครียด

โดย: Amygdala

          ความเครียด เพื่อนสนิทที่คนวัยทำงานต่างปฏิเสธไม่ได้ เขาจะตามคุณไปทุกที่ โดยเฉพาะเมื่อคุณไม่ใช่เพียงคนทำงาน แต่ยังต้องรับผิดชอบครอบครัวด้วย หนีไม่พ้นแน่ ๆ  แต่ไม่ว่าเขาจะตามติดเวิร์กกิ้งมัมใกล้ชิดแค่ไหน ก็มีวิธีเว้นระยะห่างจากเพื่อนคนนี้ได้ ด้วยการนวดตัวเองง่าย ๆ แบบนี้ครับ

   1.วางมือทั้ง 2 บนคอและไหล่ของแต่ละข้าง

   2.ใช้นิ้วมือหรือฝ่ามือกดและนวดแรง ๆ

   3.ปล่อยไหล่ทั้งสองข้างให้อยู่ในลักษณะผ่อนคลาย ไม่เกร็ง

   4.ใช้มือข้างหนึ่งจับแขนท่อนล่างของอีกข้าง กดนวดด้วยนิ้วโป้งและนิ้วอื่น ๆ

   5.นวดจากข้อศอกไปจนถึงปลายนิ้ว แล้วย้อนกลับขึ้นมา

   6.ทำซ้ำกับแขนอีกข้าง

          เป็นวิธีคลายเครียดที่น่าจะช่วยคุณได้บ้าง อุปกรณ์ก็ไม่มี แถมทำได้ทุกที่ด้วย ตอนพักตาจากจอคอมพิวเตอร์ลองทำดูนะครับ

10 วิธีเด็ด รักษาน้ำหนักให้คงที่

Diet


10 วิธีเด็ด รักษาน้ำหนักให้คงที่

         ดูเหมือนว่าการลดน้ำหนักและปรับนิสัยการกินซะใหม่ จะให้ผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาหุ่น แต่เคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้ก็ช่วยคุณควบคุมน้ำหนักได้เหมือนกันนะ


1. เดินออกกำลัง

         โรคอ้วนกำลังระบาดไปทั่วอเมริกา และมีแนวโน้มว่าจะระบาดหนักขึ้นอีกในทศวรรษหน้านี้ การใช้เวลาพิเศษ 20 นาที เพื่อให้ร่างกายได้มีกิจกรรมมากขึ้น หรือการเดินวันละ 2,000 ก้าว คือสิ่งที่เราต้องทำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักเพิ่ม ถ้าอยากรู้ว่าคุณเดินกี่ก้าวแล้วน่ะเหรอ ก็ลองใช้เครื่อง Pedometer หรือมาตรวัดจำนวนก้าวติดที่เข็มขัด แล้วก็ออกเดินได้เลย ไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม ตั้งแต่จูงสุนัขเดินเล่นหรือออกไปซื้อของแถวบ้าน

2. กินแอปเปิ้ลแบบสโนว์ไวท์
         แอปเปิ้ลมีวิตามิซี 15 เปอร์เซ็นต์ ของทั้งหมด ที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันเชียวนะ เพื่อที่จะเสริมสร้างให้ร่างกายทุกส่วนมีสุขภาพดี โดยทั่วถึงแอปเปิ้ลอุดมด้วยวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็ง ในการไดเอ็ต ลองกินแอปเปิ้ลหรือผลไม้อื่น ๆ วันละสักสองสามลูก หรือมากกว่านั้นดูสิ

3. เซย์โนไขมันแปรรูป

         แย่พอๆ กับไขมันอิ่มตัวนั่นแหละ ไขมันแปรรูปทำให้ระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม และโปรตีนไลปิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) ซึ่งเป็นระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีสูงขึ้น แต่กลับไปลดระดับโปรตีนไลปิดความหนาแน่นสูง (HDL) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายลง การบริโภคไขมันแปรรูปอาจไปขัดขวางการดูดซึมไขมันที่ดีต่อสุขภาพที่จำเป็นต่อการเติบโต และการทำงานของอวัยวะสำคัญ

4. ดื่มแอลกอฮอล์ได้บ้าง
         ที่อนุญาตให้ดื่มนี้หมายถึงวันละหนึ่งถึงสองแก้ว ต่อวันสำหรับผู้ชาย และหนึ่งแก้วเท่านั้นสำหรับผู้หญิง หากดื่มมากเกินปริมาณที่พอเหมาะ จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่คุณจะเสพติดแอลกอฮอล์ มีความดันโลหิตสูง เป็นโรคอ้วน หลอดเลือดสมองตีบ มะเร็งเต้านม และยังเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายและประสบอุบัติเหตุด้วยนะ

ลดความอ้วน


5. กินวิตามินเสริม

         จาการวิจัยของ Journal of Nutrition พบว่า การกินวิตามินรวมทุกวันช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดหัวใจกำเริบครั้งแรก ทั้งในเพศชายและหญิง ซึ่งผู้เขียนรายงานการวิจัยคิดว่า เป็นผลมาจากวิตามินบีที่พบอยู่ในวิตามินรวม เช่นเดียวกับวิตามินซีและอีที่ต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุอย่างซีลีเนียมและเบต้าแคโรทีน วิตามินเสริมนี้ไม่สามารถจะแทนที่คุณค่าอาหารที่คุณได้จากอาหารปกติได้ แต่มันก็ช่วยปกป้องโครงสร้างพื้นฐานของร่างกาย

6. เพลา ๆ เกลือลงหน่อย
         สำหรับคนที่ชอบเติมเกลือในอาหาร การที่ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไปจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง โดยชาวอเมริกันมากกว่า 50 ล้านคน หรือเท่ากับหนึ่งในสี่ของทั้งประเทศมีความดันโลหิตสูง โดยที่หนึ่งในสามของคนเหล่านี้ไม่รู้ตัวเลย ซึ่งความดันโลหิตสูงนั้นเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคไต และหลอดเลือดสมองตีบ แบบนี้แล้วใช้เครื่องปรุงอื่น ๆ ปรุงรสอาหารดีกว่านะ

7. จำไว้ว่าสีน้ำตาลดีกว่าสีขาวนะ
         แป้งโฮลวีตนั้นมีสารอาหารและเส้นใยอาหารมากกว่าแป้งขัดสี ลองเปลี่ยนมากินขนมปังโฮลวีตแทน ขนมปังขาว และกินข้าวกล้องแทนข้าวขาวดีกว่านะ ซึ่งข้าวโพดคั่วและข้าวโอ๊ตบดหยาบก็ถือเป็นธัญพืชเช่นกัน

8. กินโยเกิร์ต
         เป็นที่รู้กันว่าแคลเซียมในโยเกิร์ต ทำให้กระดูกแข็งแรง แต่มีเหตุผลมากกว่า ที่จะกินโยเกิร์ตเพื่อสุขภาพของกระดูก เพราะเดี๋ยวนี้โยเกิร์ตบางยี่ห้อยังมี Inulin ซึ่งเป็นไฟเบอร์คล้ายๆ คาร์โบไฮเดรต ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พบได้ในผักและผลไม้ ซึ่ง Inulin นี้ช่วยเพิ่มการทำงานให้เซลล์ที่มีชีวิต และป้องกันการเติบโตของแบคทีเรียในระบบย่อยอาหาร ที่สำคัญคือเป็นผู้ช่วยดูดซึมแคลเซียมด้วยอีกด้วย

9. ห่ออาหารกลับบ้าน

         เดี๋ยวนี้อาหารตามร้านอาหารหรือฟาสต์ฟู้ด มีจานใหญ่ขึ้นมากจริง ๆ และบางคน ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากกินให้หมดจาน ดังนั้น เมื่อสั่งอาหารให้คุณขอแบ่งอาหารครึ่งหนึ่งใส่กล่องกลับบ้านแทนสิ เพื่อที่คุณจะสามารถเก็บไว้กินในวันต่อไปได้ด้วย จะได้ทั้งประหยัดค่าอาหารและมีรูปร่างสมส่วนไงล่ะ

10. ดื่มน้ำมาก ๆ
         น้ำนั้นสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญทั้งหมดในร่างกายเรา น้ำช่วยในย่อยที่ทำให้น้ำหนักลดลง และยังช่วยให้ผิวพรรณแลดูผ่องใสอีกด้วย เคล็ดลับสำคัญคือ ดื่มน้ำปริมาณ 8 ออนซ์ ต่อแก้ว วันละ 8-10 แก้ว หรือถ้าคุณกินผักและผลไม้ที่มีส่วนประกอบของน้ำ ก็จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายได้เหมือนกัน

สุขภาพดีอยู่ที่กินและถ่าย

สุขภาพ

สุขภาพดีอยู่ที่กินและถ่าย 
เรื่อง : พญ.ศันสนีย์  อำนวยสกุล , เรียบเรียง : ประพนธ์ งามวิเศษกุล

          "มาช้าจังเลย เดี๋ยวก็ไปไม่ทันนัดหรอก"

          "เช้านี้ฉันรู้สึกไม่มั่นใจเลย ใส่ชุดอะไรก็ไม่สวย"

          "มานี่สิ (เพื่อนสาวชูโยเกริต์ให้หนึ่งถ้วย) มีส่วนช่วยในการขับถ่ายนะ"

          "อือ อร่อย แล้วดีจริง ๆ เหรอ"

          "ก็ดูฉันสิ  (เพื่อนสาวอวดหุ่นสวยอย่างภาคภูมิใจ)"

          จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่า ผู้หญิงคนหนึ่งรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนก่อนนอนก็ยังไม่ได้มีความรู้สึกนั้น เพราะอะไรเธอจึงเกิดความรู้สึกดังกล่าว  นั่นเพราะเมื่อตอนที่เธอตื่นมาเจอกับหน้าท้องพองลม แล้วระบบขับถ่ายไม่ยอมทำงานตามปกติ หรือที่เรียกว่า "ท้องผูก" ส่งผลให้ของเสียที่ควรจะถูกขับถ่ายออกจากร่างกายยังคงตกค้างอยู่จึงทำให้หน้าท้องป่อง เท่านั้นยังไม่พอ ยังส่งผลกระทบทางด้านจิตใจทำให้ขาดความมั่นใจไปในทันที

          อาการท้องผูกในคนทั่วไปนั้นพบบ่อย 5 –20 % โดยผู้หญิงจะเป็นบ่อยกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า ในผู้สุงอายุก็พบอาการท้องผูกได้บ่อยกว่าเช่นกัน อาการท้องผูกส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทั้งอาชีพการงาน และการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีการเปิดเผยตัวเลขเกี่ยวกับการใช้บริการทางการแพทย์เป็นมูลค่าถึง 2,752 ดอลล่าร์สหรัฐ ต่อคนไข้ 1 คนในการตรวจวินิจฉัยในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ เราลองมารู้จักอาการท้องผูกสักนิดเพื่อจะได้ดูแลตนเองเบื้องต้นได้

          ถ่ายเบา ถ่ายหนัก ถือเป็นกิจวัตรประจำวันสำหรับคนปกติ หากวันไหนรู้สึกไม่อยากถ่าย หรืออยากปลดปล่อยใจจะขาดแต่มันไม่ยอมสักที นั่นแสดงว่าระบบขับถ่ายของคุณเริ่มมีปัญหาแล้วล่ะ
    
          แต่คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการถ่ายทุกวันเป็นเรื่องดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว การถ่ายทุกวันก็ถือว่าไม่ปกติเช่นกัน
    
          จริง ๆ แล้วอาการท้องผูกคือ เบ่งถ่ายยาก อุจจาระแข็ง รู้สึกถ่ายไม่หมด รู้สึกว่ามีการอุดตันที่บริเวณทวารหนัก ต้องช่วยสวนทวาร ต้องอาศัยยาจึงทำให้อุจจาระไม่แข็ง ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้ง/สัปดาห์ หรือรู้สึกถ่ายน้อยกว่าคนปกติ จะเห็นว่าความสำคัญอยู่ที่ลักษณะของอุจจาระและการขับถ่ายมากกว่าความถี่ในการอุจจาระ บางครั้งท้องผูกเกิดได้ฉับพลัน แต่ก็เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นช้า ๆ และอยู่นานเป็นเดือน เป็นปี  

          ท้องผูกเรื้อรัง ตัดสินจากระยะเวลา คือเริ่มมีอาการท้องผูกอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนการวินิจฉัย และเป็นอยู่นานติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน และต้องไม่ใช่ลำไส้แปรปรวน (IBS) ที่รู้สึกปวดหรือไม่สบายท้อง แต่ดีขึ้นเมื่อได้ถ่ายอุจจาระเป็นอาการเด่น โดยมีอาการท้องผูกร่วมด้วย ที่ต้องแยกการวินิจฉัย เพราะ IBS ให้รักษาอาการปวด โดยอาจไม่จำเป็นต้องให้ยากระตุ้นการขับถ่าย หรือทำให้ถ่ายอุจจาระเหลวมากขึ้น
    
          สาเหตุของอาการท้องผูกที่ไม่ได้มีโรครุนแรงซ่อนอยู่ได้แก่ ดื่มน้ำไม่เพียงพอ กินอาหารน้อย กินเส้นใยอาหาร (Fiber) น้อย ขาดการออกกำลังกาย ถึงเวลาปวดถ่ายไม่ยอมเข้าห้องน้ำ หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดกรด ยาแก้แพ้ ยาขับปัสสาวะ ยารักษาความดันสูงบางชนิด ยาบำรุงเลือดธาตุเหล็ก ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดบางชนิด ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียม และที่พบได้บ่อยมาก คือใช้ยาถ่ายบ่อยเกินไป
    
          ส่วนอาการท้องผูกเรื้อรังนั้น อาจมีสาเหตุจากโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื้องอกจะอุดตันลำไส้ ทำให้ถ่ายไม่ออก เบาหวาน โรคฮอร์โมนธัยรอยด์ต่ำ โรคทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน สมองเสื่อม อัมพาต สมองได้รับบาดเจ็บ โรคซึงเศร้า โรคในลำไส้อื่น ๆ เช่น กระเปาะของผนังลำไส้ ลำไส้โป่งพอง หลังการผ่าตัดในช่องท้องการตีบแคบ หรือลำไส้เคลื่อนไหวช้า เป็นต้น 

ทำอย่างไรไม่ให้ท้องผูก

           1.ดื่มน้ำให้ได้วันละประมาณ 1-2 ลิตร ถ้าไม่มีโรคหัวใจ โรคของเส้นเลือด โรคไตอยู่ บางคนอาจท้องผูกจากการดื่มนมหรือรับประทานแคลเซียมในปริมาณมาก

           2.เข้าห้องน้ำทันทีเมื่อรู้สึกปวดถ่าย ไม่ควรรอหรือทนอั้นไว้เพราะยิ่งรอไว้นาน ยิ่งเพิ่มอาการท้องผูก และควรฝึกขับถ่ายเป็นเวลา

           3.ออกกำลังกายน้อย หรือใช้เวลานอนบนเตียงนาน ๆ เช่น คนป่วยนอนโรงพยาบาลนาน ๆ ทำให้ท้องผูก จึงควรขยับเขยื้อนร่างกาย ออกกำลังกายเสมอ ๆ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดถ้ามีอาการปวดข้อ อาจลองทำกายบริหารในสระว่ายน้ำ

           4.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีใยน้อย เช่น ไอศกรีม ชีส หรือเนยแข็ง เนื้อวัว ควรหลีกเลี่ยงชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ

           5.ทานอาหารที่มีใยอาหาร 20-30 กรัมต่อวัน เพราะใยอาหารจะทำให้เนื้ออุจจาระอุ้มน้ำมากขึ้น แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมารของใยอาหารในทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวจะได้ไม่เกิดอาการท้องอืดแน่น

           6.หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบาย หรือการสวนทวารนาน ๆ เพราะไม่ใช่วิธีการรักษาให้หายขาด การใช้ยาระบายนาน ๆ ทำให้ร่างกายลืมหน้าที่ตนเอง

          หากปฏิบัติข้อ 1-6 แล้วไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อการตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างถูกต้อง 

Tip

          ใยอาหารพบในผัก เช่นคะน้า กวางตุ้ง ผักโขม ผลไม้ เช่น ส้ม มะละกอ และผลไม้ที่กินได้ทั้งเปลือก ควรกินผักผลไม้ให้ได้ 4-5 ส่วนต่อวัน (ประมาณ 5 ทัพพีหรือ 1 ฝ่ามือผู้ใหญ่) เมล็ดัญพืช ถั่ว ลูกพรุน ข้าวกล้อง โฮลวีต ฯลฯ โดยเฉพาะพรุนนั้นเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์มากเป็นพิเศษ

มาเรียนว่ายน้ำกัน


ใครว่ายน้ำไม่เป็นยกมือขึ้น...ท่าทางจะมีพอสมควร คนไหนที่ว่ายนำไม่เป็น วันนี้มีข่าวดีมาฝาก เพราะได้ข่าวมาจากทางผู้จัดการออนไลน์ว่า ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมเค้าได้เปิด"หลักสูตรว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด"ขึ้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมในการจัดทำหลักสูตรด้วย น่าสนใจไหมหล่ะ ถ้าอย่างนั้นไปดูรายละเอียดกันเลย


                โดยอาจารย์วรพงศ์ พัชรวิชญ์ ผู้จัดการสระว่ายน้ำ และอาจารย์พิเศษสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันแก้ไขปัญหาการเสียชีวิตจากการจมน้ำของเด็ก จึงได้ร่วมมือผู้เชี่ยวชาญการสอนว่ายน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำ สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ฝึกสอนว่ายน้ำแห่งประเทศไทย สถาบันการพลศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กองพลศึกษา โรงเรียนเตรียมทหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็กโรงพยาบาลรามาธิบดี และมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม จัดทำหลักสูตรว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด ภายใต้การสนับสนุนขององค์การอนามัยโลก
         “จากสถิติการเสียชีวิตของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปีนั้น พบว่าการจมน้ำเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งหลักสูตรดังกล่าวจึง เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการเอาชีวิตรอดในน้ำ ที่จะสอนให้เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี หรือเด็กที่มีอายุมากกว่านี้แต่ไม่เคยเรียนว่ายน้ำมาก่อน โดยใช้หลักสูตรที่มีอยู่ของสมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำเป็นพื้นฐานและคู่มือการสอน โดยจะเป็นเครื่องมือสำหรับครูผู้สอนได้ใช้ประกอบการวางแผนและการจัดการเรียนการสอนอีกทางหนึ่ง”
          โดยการสอนว่ายน้ำเพื่อเอาตัวรอดจะเป็นการสอนให้รู้จักการพยุงตัวในน้ำ ลอยคอให้อยู่กับที่ และสอนให้รู้จักวิธีการช่วยเหลือผู้อื่นโดยให้ตนเองปลอดภัยและสอนให้รู้จักการใช้อุปกรณ์ในการช่วยผู้จมน้ำ มีทักษะการยื่นด้วยการหาไม้ยาวๆ หรือวัสดุลอยน้ำยื่นไปให้ผู้จมน้ำจับ การโยน โยนสิ่งของ วัสดุที่ลอยน้ำได้ให้ผู้จมน้ำเกาะ และการลุย คือการลงไปช่วยผู้จมน้ำแต่ต้องมีอุปกรณ์ลงไปช่วยด้วย โดยหลักสูตรดังกล่าว ได้นำร่องทดลองใน 4 จังหวัดที่มีสถิติการเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ ราชบุรี เพชรบูรณ์ และนครศรีธรรมราช

ว่ายน้ำกันครับ

การว่ายน้ำ ...
ได้ชื่อว่าเป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมจากคนทุกเพศทุกวัย เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังได้รับ ความสนุกสนานอีกด้วย ช่วงนี้สำนักงานส่งเสริมสุขภาพมีข้อแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการว่ายน้ำมากฝาก 
   
ในการว่ายน้ำนั้น ..
เราจะต้องใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายมากกว่าการวิ่ง แต่โอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บจะน้อยกว่าเพราะมีน้ำช่วยพยุงร่างกายไว้ ยิ่งคนที่มี น้ำหนักตัวมากยิ่งควรออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ แต่ก็ต้องออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นไปพร้อมๆ กันนะคะ เพราะการว่ายน้ำไม่ทำให้ไขมัน ลดน้อยลง แต่จะทำให้หัวใจและปอดอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ รวมทั้งช่วยให้กล้ามเนื้อขาและแขนก็แข็งแรงขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้น้ำยังมีคุณสมบัติพิเศ๋ษซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติคือ มีความต้านทานต่อการเคลื่อนไหวของแขน ขา ได้มากน้อยตามต้องการ เช่นถ้าออกแรงมากก็จะมีความต้านทานมาก ถ้าออกแรงน้อยแรงต้านทานก็จะลดลง ที่สำคัญการว่ายน้ำทำให้ร่างกายสดชื่น สบายตัวด้วย.. 
   
แต่การว่ายน้ำก็มีข้อควรระวังอยู่เหมือนกัน ..
ตัวอย่างก็เช่นว่า ควรจะมีทักษะในการว่ายน้ำมาก่อน หรือถ้ามีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่นโรคลมชัก หรือลมบ้าหมูนั้น ห้ามว่ายน้ำคนเดียวเด็ดขาด หรือในรายที่มีอาการปวดหลัง ปวดต้นคอ ก็ต้องหลีกเลี่ยงท่าว่ายน้ำที่ต้องแอ่นหลัง หรือแหงนคอมากๆ เพราะจะทำให้ปวดมากขึ้น ทางที่ดีควรว่ายในท่ากรรเชียง…

   
ส่วนข้อควรปฏิบัติของผู้ที่ออกกำลังกายว่ายน้ำ ....
ก็คือควรดื่มน้ำ 1-2 แก้วก่อนลงสระ และดื่มอีกครั้งหลังขึ้นจากสระประมาณ 20-30 นาที เพราะการว่ายน้ำจะทำให้เสียน้ำมากโดยที่เราไม่รู้สึกตัว เนื่องจากเหงื่อที่ออกมาขณะออกกำลังกายจะถูกน้ำชะล้างอยู่ตลอดเวลานั่นเอง



วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ขอนอกเรื่องหน่อยนะครับใครที่เล่นเกมแฮปปี้คนเลี้ยงหมู วันนี่มีวิธีหาเหรียญ E มาใช้ง่ายๆสบายๆกระเป๋าครับ

วันนี่ผมมีแนวทางในการได้เหรียญ E โดยไม่ต้องลงทุนเลยน่ะคัฟผมไม่ได้บังคับแต่เป็นแนวทางเลือกทางหนึ่งสำหรับคนที่อยากได้ เหรียญ E ไว้ใช้
ขั้นตอนที่ 1 เข้าไปสมัครที่เว็บนี่เรยจร้า>>>กดเลยครับ



ขั่นตอนที่ 2 กรอกข้อมูลให้ครบ(ไม่จำเป็นต้องเป็นข็อมูลจริง)เมื่อกรอกครบให้กด>>เสนอ<<

##########จะไม่มีปัญหาใรการสมัครถ้าเพื่อนๆให้ E-mail จริงและถูกต้อง##########



ขั้นตอนที่ 3.หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จแล้วระบบจะแจ้งให้เรายืนยันทาง E-mail ให้เรากดยืนยัน แล้วหลังจากนั่นก้อเข้าระบบล็อกอินเข้าสู่เว็บสำรวจ หากไม่มีข้อความจากระบบส่งไปทาง E-mail ให้ตรวจสอบอีกทีว่าเรากรอก E-mail จริงหรือถูกต้องหรือป่าว

ขั้นตอนที่ 4.เมื่อทำการล็อกอินเข้าระบบ แล้วเริ่มหาแต้มสะสมกันได้เรยจร้า
วิธีที่จะได้แต้มมามีดังนี่
    - ได้จากการสมัครเป็นสมาชิก 500 แต้ม
    - ได้จากการทำแบบสำรวจถามร่วมกัน ข้อละ 100 แต้ม(ประมาณ 25 ข้อ)
    - ได้จากการเข้าร่วมสำรวจกับทางระบบ ได้ 5000 แต้ม(ค่อนข้างยาก)
    - ได้จากการชักชวนเพื่อนผ่าน Link แนะนำของเรา ได้ 100 แต้ม
    - ได้จากการร่วมกิจรรมของทางเว็บที่จะจัดขึ้นเรื่อยๆ
****พิเศษ ในช่วงวันที่ 15/10/2010 - 15/11/2010 แนะนำเพื่อนผ่าน Link เราจะได้รับ 1500 แต้ม***
วิธีทำแบบสำรวจร่วมกัน
วิธีหาแต้มจากการเข้าร่วมสำรวจและแนะนำเพื่อนผ่าน Link

การตรวจสอบแต้มสะสมของเรา ดังนี่(ตามภาพด้านบน)
    - แต้มลงทะเบียน คือ แต้มที่เราสมัครเป็นสมาชิก 500 แต้ม
    - แต้มสำรวจ คือ แต้มที่เราเข้าร่วมสำรวจจากทางเว็บ 5000แต้ม (ค่อนข้างยากพอสมควรแต่ทางเว็ยได้บอกแนวทางมาให้ด้วยจะง่ายขึ้น)
    - แต้มแนะนำ คือ แต้มที่เราไปโพสให้เพื่อนสมัครผ่าน Link ของเรา 100 แต้ม(ช่วงกิจกรรม 1500 แต้ม)
    - แต้มโบนัส คือ แต้มที่เราทำแบบสอบถามร่วมกัน ข้่อละ 100 แต้ม
    - แลกแต้ม คือ แต้มที่เราทำการแลกเป็น้งินสดไปแล้วจะขึ้นยอดให้ตรงนี่
    - Total Points คือ แต้มรวมปัจจุบัยของคุณที่มีอยู่



ขั้นตอนที่ 5.เมื่อเรามีแต้มครบแล้วยังทำการแลกเงินสดไม่ได้เพราะต้องมีบัญชี Paypal เสียก่อน
วิธีสมัครบัยชี Paypal
1.เข้าไปที่เว็บ
สมัคร Paypal


4.กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วนและถูกต้องแล้วกด "ยืนยันและสร้างบัญชี"
เมื่อกดสร้างบัญชีแล้วจะปรากฎหน้าให้กรอกบัตรเครดิตให้เราข้ามไปกด "ไปที่บัญชีของฉัน"



ขั่นตอนที่ 6.เมื่อเรามีบัญชี Paypal แล้วให้เรากลับไปที่เว็บสำรวจเพื่อป้อนบัญชี Paypal ในการโอนเงิน
***หากตอนแลกเงินสดแล้วขึ้นมาหน้าต่างนี่อีกให้เรากรอกข้อมูลให้ครบทุกช่องแล้ว "เสนอ" แล้วกลับไปแลกเงินสดอีกครั่ง

ขั้นตอนที่ 7.เมื่อป้อนบัญชี Paypal สำหรับโอนเรียบร้อยเราก้อทำการแลกแต้ม เพื่อแลกเหรียญ E กัลเลย
วิธีการแลกแต้มสะสมเป็นเงินสด



ขั้นตอนที่ 8.เมื่อเรากดแลกแต้มไปแล้วระบบจะทำการตรวจสอบว่าผ่านหรือไม่
วิธีตรวจสอบเงินว่าผ่านหรือไม่

 
***กรณีที่ใครรอการตรวจสอบนานเกินหรือคนอื่นผ่านหมดแล้วแต่ตนเองยังไม่ผ่านรบกวนให้ไปลองตรวจสอบข้อมูลดูว่าเรากรอกครบหรือถูกต้องไหม

ขั้นตอนที่ 9.เมื่อเราทำการแลกเงินสดแล้วและตรวจสอบว่าผ่านแล้วเป็นวันที่ระบบจะแจ้งไปที่ E-mail ว่าได้ส่งเงินให้คุณแล้ว ให้เราเข้าไปยืนยันวงเงินที่ E-mail ของเรา และให้เข้าไปตรวจสอบว่าเงินของเราเข้าไปสู้บัญชี Paypal หรือไม่ หากไม่เข้าแสดงว่าคุณต้องใส่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ลองกลับไปตรวจและแก้ไขใหม่





ขั้นตอนที่ 10.เมื่อเรามีเงินอยู่ในบัญชี Paypal แล้วเราก้อสามารถแลกเหรียญ E ได้เรย
วิธีการแลกเหรียญ E ผ่านบัญชี Paypal
7.เมื่อทำการล็อกอินเข้าบัญชีแล้วระบบจะเข้าสู่หน้าจ่ายเงินให้เรากด ตกลงหรือดำเนินการต่อ ระบบก้อจะทำการแลกเหรียญ E ให้และส่งเข้าเกมส์แฮปปี้คนเลี้ยงหมู ส่วนเงินในบัญชีของเราก้อจะถูกหักลบไป
เพียงเท่านี่เพื่อนๆชาวแฮปปี้คนเลี้ยงหมูก้อมีเหรียญ E ง่าย แบบสบายๆกระเป๋า เอาไว้ หมุนจากเพื่อนลุ้นหมูสำเภา หรือจะเอาไว้อัพคอกหมู เพื่อให้ดูมีระดับ เพื่อนๆก้อทำได้
ใครที่คิดว่าผมหลอกลวงผมก้อไม่ว่าอะไรนะคัฟ ผมไม่สนใจหรอก และผมก้อไม่ต้องการ Spoonser ใดๆ แต่แค่ต้องการว่าอยากให้ทุกคน อย่างน้อยก้อมีเหรียญ E แบบสุจริตและได้แน่นอนคัฟ มันอาจจะยุ่งยากและช้าหน่อย แต่เชื่อเถอะคับ ของจะฟรี ก้อต้องเสียเวลาให้เขาหน่อยเป็นธรรมดา
สุดท้ายนี่ผมคิดว่ากระทู้นี่จะทำให้เพื่อนๆเข้าใจในการ หาเหรียญ E ได้ง่ายขึ้นน่ะคัฟและหวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ๆเพื่อนๆชาว แฮปปี้คนเลี้ยงหมูทุกคน หาว่ามีปัญหาตรงจุดไหนไม่เข้าใจ สอบถามได้น่ะคัฟที่กรูเฟสบุคของผมจะสะดวกกว่าน่ะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------
อีกวิธีหนึ่งเป็นเวปของต่างประเทศนะครับ
วิธี สมัครครับ

คลิ๊กที่ Create A Free Account มุมขวาบน
กรอกข้อมูลของเราให้ครบ




จากนั้นจะมีลิงค์ให้เราคลิ๊กเลือกแบบสอบถาม (คลิ๊กแล้วตอบแบบสอบถามทุกลิงค์)
เริ่มคลิ๊กจาก Welcome Survey A $6 ก่อน


หลังจากคลิกลิ้ง แล้วให้คลิ๊กที่ Start Survey Now เพื่อกรอกแบบสอบถาม

ต้องคลิกดูเว็บก่อน (Click Here for Website )จากนั้นก็พิมพ์อะไรลงไปก็ได้ เป็นภาษาอังกฤษ
เช่น good , bad ง่ายดี

ทำการคลิ๊ก A $4 ทำขั้นตอนเหมือนเดิมกับ A $6 จนครบทุกเว็บ

พอเราตอบแบบสอบถามครบ เราก็จะได้เงิน 27$

ตัวอย่าง Link ที่จะไช้ส่งให้คนอื่นสมัครต่อผ่านเรา

ต่อจากนั้นเราก็นำลิงค์ที่เราได้ไปให้เพื่อนของเราสมัครต่อ แล้วเราจะได้ 1.25$ ต่อ 1 คน





ผลตอบแทน มีดังนี้
แนะนำเพื่อนได้เงิน1.25$ ต่อ 1 คนคะยิ่งได้แนะนำมากยิ่งได้เงินเยอะตลอดชีพ!!!


วิธีคำนวนอัตราคิดเงิน ไทย
1.เงิน 1.00$ = 35 บาท
2.เงินสหรัฐ 75.00$ คิดคูณเงินไทย35บาท คิดเงินไทย 2,550 บาท
3.ลองอ่านดูอัตราแลกเปลื่ยนเงินต่างประเทศตามกำหนดธนาคารต่างๆ

เงินที่ได้จะถูกโอนเข้า paypalครับ แล้วนำไปซื้อ E ได้ครับ


** เงินที่เราจะได้รับมาจากวิธีดังต่อไปนี้**
1. มาจากการที่เราตอบแบบสอบถามจะได้เงิน 1 $ - 25 $
2. มาจากการที่เราแนะนำเพื่อนจะได้เงิน 1.25 $/คน
3 . มาจากการที่เราสมัครมาเป็นสมาชิกกับทางเว็บจะได้เงิน 6 $



ขอเชิญทุก ท่าน ร่วมตอบแบบสอบถามกับ awsurveys.comรับ 27$

เข้าไปกรอกและตอบแบบสอบถามได้ที่ ข้างล่างนี้…