วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

6 ขั้นตอนเพื่อประสาทสัมผัสที่เฉียบขึ้น

ผู้ชาย

6 ขั้นตอนเพื่อประสาทสัมผัสที่เฉียบขึ้น (Men’s Health)
แปลและเรียบเรียงโดย ธัญมาศ

          มาดูวิธีฝึกประสาทสัมผัสของหนุ่ม ๆ ให้ดีขึ้นกันดีกว่า

1.สดับเสียงแห่งความเงียบ

          ไม่ว่าคุณกำลังเดินทางไปทำงานโดยรถไฟฟ้า อยู่บนเครื่องบิน หรือวิ่งจ็อกกิ้งอยู่ในสวน เสียงเพลงจากเครื่องไอพอดแอปเปิ้ลสีขาวคู่ใจ คงทำหน้าที่เป็นเพื่อนเดินทางได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าคุณจำเป็นต้องเปิดเสียงให้ดัง (กว่าปกติ) เพื่อแข่งกับเสียงรบกวนรอบข้าง เมื่อเป็นเช่นนี้บ่อยๆ เสียงที่ดังอย่างคงที่เป็นระยะเวลานาน ๆ อาจทำให้คุณถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้มีปัญหาเสียงดัง ในหู (เสียงวิ้ง ๆ หึ่ง ๆ ในหูข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง หรือในศีรษะ) ซึ่งขณะนี้มีอยู่แล้ว 4.7 ล้านคนตามที่สถาบันเพื่อคนหูหนวกแห่งชาติได้ประมาณเอาไว้ 

          ลองเปลี่ยนมาใช้หูฟังที่ตัดเสียงรบกวน ซึ่งจะช่วยถนอมหูคุณโดยการตัดเสียงจากภายนอก เพื่อที่คุณจะได้สนุกกับเสียงเพลง ในระดับเสียงที่ไม่กระหน่ำเยื่อแก้วหู

           ผลลัพธ์ที่ได้ ลงทุนอีกสักนิดเพื่อทะนุถนอมเยื่อแก้วหูของคุณไปจนตราบนานเท่านาน

2.สายตาพิฆาต

          โดยทั่วไปแล้วการไล่ล่าฆ่าผีดิบ และต่อสู้กับนักคาราเต้นั้นย่อมไม่ส่งผลดีกับสุขภาพคุณแน่ ๆ แต่ตามรายงานการวิจัยจากมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์พบว่า การรบรากับพวกนี้ในโลกเสมือนของวิดีโอเกม สามารถช่วยให้สายตาคุณดีขึ้นได้ จังหวะที่บ้าคลั่ง และภาพกราฟิกคมชัดราวกระบี่ของเกม ช่วยเพิ่มความละเอียดของภาพในสายตาคุณ ช่วยเพิ่มพลังสายตาได้มากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ 

          แต่ถ้าวันไหนคุณอินกับเกมมากเกินไป จนหยิบเอาที่เย็บกระดาษไปกดใส่หัวเพื่อนร่วมงานเวลาโกรธล่ะก็ คงถึงเวลาที่คุณต้องบอกลาเครื่องเล่นเกมสักพัก แล้วออกไปสูดอากาศเสียบ้างนะครับ

           ผลลัพธ์ที่ได้ ยืนห่างจากชาร์ตวัดสายตา 20 ฟุต ก็ยังเห็นเป็นปกติ แถมยังได้นิ้วโป้งที่แข็งแรงอีกด้วย

3.เย้ายวนชวนได้กลิ่น

          เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องเยี่ยมอยู่แล้ว แต่งานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ว่า มันมีประโยชน์ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน การศึกษาที่มหาวิทยาลัยควีนส์ในเบลฟาสต์พบว่า ฮอร์โมนโปรแลคตินที่ร่างกายสร้างขึ้นระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ จะไปกระตุ้นสเตมเซลล์ (หรือเซลล์ต้นกำเนิด) ในสมองให้เติบโตเป็นเซลล์ประสาทในออลแฟกทอรีบัลบ์ (สมองส่วนหน้าซึ่งทำหน้าที่รับกลิ่น) ซึ่งเพิ่มความอ่อนไหวต่อกลิ่นของเรา แต่ทำไมเราถึงไม่เคยสังเกตมาก่อนล่ะ นั่นอาจจะเป็นเพราะโปรแลคตินเกี่ยวข้องกับการนอนด้วยนั่นเอง ซึ่งนั่นหมายความว่า คุณคงได้แค่พูดพึมพำอะไรสักอย่างแล้วก็หลับไป

           ผลลัพธ์ที่ได้ การมีเพศสัมพันธ์ช่วยเพิ่มสมรรถนะการรับกลิ่นได้จากระยะไกล และช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น

4.แตะถูให้เกลี้ยงเกลา

          ในขณะที่การลูบไล้ผิวผู้หญิง ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มเหมือนหมอนกำมะหยี่ ถ้าจะเปรียบกันแล้วผิวผู้ชายก็คงไม่ต่างไปจากผิวกระดาษทรายของเม่น เอ็มมา เทอร์เล ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอาง ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงาม แนะว่า หนุ่ม ๆ ก็ควรขัดหน้าบ้าง (เหมือนแฟนสาว) เพื่อผลัดเซลล์ผิว และกำจัดชั้นผิวตายแล้วที่อยู่ด้านบนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวคุณดีขึ้นและความรู้สึกไวขึ้น รวมทั้งเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณภาพ

          บำรุงรักษาผิวแบบง่าย ๆ นี้จนเป็นกิจวัตรสัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วคุณจะรู้สึกผิวน่าสัมผัสและเรียบเนียนขึ้นเมื่อเธอลูบไล้

           ผลลัพธ์ที่ได้ ความรู้สึกไวขึ้น ระคายเคืองน้อยลง และเธอจะลูบตัวคุณราวกับเป็นแมวเลยล่ะ

5.เพิ่มเติมไหวพริบ

          พวกเราไม่มีสัมผัสที่ 6 ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะสัมผัสที่ 6 ของสไปเดอร์แมน ก็ดูมีประโยชน์ดีเหมือนกัน แต่ที่เรามีก็คือ ไหวพริบจากรายงานของมหาวิทยาลัยเวคฟอเรสต์ในรัฐแคโรไลนาเหนือ ระบุว่า การเล่นอักษรไขว้ หรือซุโดกุสามารถทำให้คุณมีเหตุผลขึ้น เพิ่มพลังสมอง และทำให้สมาธิดีขึ้น มันควรจะทำให้คุณมีไหวพริบที่ดีขึ้นมากพอจะรู้ว่า แมงมุมที่มีสารกัมมันตรังสีปนเปื้อนนั้นเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

           ผลลัพธ์ที่ได้ ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชีวิต

6.รับประทานสังกะสี

          ว่ากันว่าความชอบหอยนางรมเป็นรสนิยมที่ได้จากการฝึกฝน แต่ถ้าคุณอยากเพิ่มพลังให้กับประสาทรับรส คุณก็แค่เพียงรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะของเหลวข้น ๆ ภายใน คือแหล่งสังกะสี (หอยนางรม 100 กรัม มีสังกะสี 75 มิลลิกรัม) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอัลสเตอร์พบว่า มีความเชื่อมโยงกับการรับรสที่ดีขึ้น 

          งานวิจัยที่มหาวิทยาลัยรัตเกอร์สในสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่รับรสได้ดีกว่าปกติมักจะมีรูปร่างผอมกว่า ก็ในเมื่อหอยสักจานจะทำให้ผู้หญิงรู้สึกดี ทำให้คุณดูดี มิหนำซ้ำยังลิ้มรสอาหารดีขึ้น แล้วคุณจะมัวรีรออะไรอยู่อีกล่ะ

           ผลลัพธ์ที่ได้ รสชาติเต็มที่แต่เอวบางลงอีกตั้งครึ่ง



ขอขอบคุณข้อมูลจาก



รู้อย่างนี้แล้วลุย!!!
เพื่อประสาทสัมผัสที่เฉียบคม

สุดท้ายผมขอฝากเรื่องข้อต่อและกระดูกไว้ด้วยครับ
เพราะปัจจุบันนี้โรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก
เป็นภัยเงียบที่น่ากลัวผมไม่อยากเห็นเพื่อนๆ
หรือคนที่เพื่อนๆรักป่วยเป็นโรคเหล่านี้
เพราะมันอาจจะรุนแรงถึงขั้นเดินไม่ได้เลยนะครับ
ยังไงผมก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย
ด้วยความห่วงใยจากผม
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ
สวัสดีครับ
สนใจแนวทางป้องกัน ดูแลสุขภาพของข้อเข่าและข้อต่อต่างๆในร่างกาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

งีบหลับยามบ่ายช่วยให้สมองแล่น

นอนหลับ

งีบหลับยามบ่ายช่วยให้สมองแล่น (ไทยโพสต์)

          เจ้านายคงไม่ชอบ แต่ถ้าแอบหลับในที่ทำงาน หัวคิดจะแล่นดีขึ้น

          ผลวิจัยทางการแพทย์หลายชิ้นบอกว่า การงีบหลับตอนกลางวันอย่างที่วินสตัน เชอร์ชิล, อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ชอบทำนั้น ไม่เพียงทำให้สมองแจ่มใสเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มีปัญญาหลักแหลมขึ้นด้วย

          นักวิจัยพบว่า การงีบหลับวันละ 1 ชั่วโมงช่วยให้สมองสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ดีขึ้นในช่วงวันที่เหลือ โดย ดร.แมทธิว วอล์กเกอร์ นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ผู้ทำวิจัย บอกว่า การนอนหลับช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการงีบหลับ

          หลายคนเห็นเป็นเรื่องน่าขันที่บางคนงีบหลับหลังมื้อเที่ยง แต่คนที่มีชื่อเสียงหลายคนต่างเป็นนักงีบกันทั้งนั้น

          เลดี้ แธตเชอร์บอกว่า นางนอนหลับตอนกลางคืนแค่ 4 ชั่วโมง แต่อาศัยงีบหลับช่วงสั้น ๆ ในตอนกลางวัน บิล คลินตัน มักงีบ 30 นาทีหลังมื้อกลางวัน อีกหลายคน เช่น จอห์น เอฟ. เคเนดี, โรนัลด์ เรแกน และฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ก็ล้วนทำแบบเดียวกัน

          นักวิจัยด้านการนอนหลายรายบอกว่า นิสัยของชาวอังกฤษ ซึ่งพยายามตื่นอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เช้าถึงค่ำ เป็นเรื่องไม่ดีต่อสุขภาพ ขณะที่ชาวสเปนขึ้นชื่อว่า เป็นนักงีบหลังมื้อกลางวันตัวยง

          ในงานวิจัยดังกล่าว นักวิจัยได้ให้นักศึกษาที่มีสุขภาพดี 39 คนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม แล้วขอให้ทดลองทำกิจกรรมที่ต้องอาศัยการเรียนรู้ เช่น จับคู่ชื่อกับภาพใบหน้า เพื่อศึกษาสมอง ส่วนฮิปโอแคมปัส ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลต่าง ๆ ในตอนบ่ายสอง กลุ่มหนึ่งเข้านอนเป็นเวลา 90 นาที อีกกลุ่มให้รู้สึกตัวตื่นอยู่ตลอด พอถึง 6 โมงเย็น นักวิจัยขอให้เด็กทั้งสองกลุ่ม ทดสอบสมรรถภาพในการเรียนรู้อีกครั้งหนึ่ง จากนั้น รายงานผลการทดลองนี้ต่อที่ประชุมของสมาคม เพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อเมริกัน ที่เมืองซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย ว่า เด็กกลุ่มที่ได้นอนกลางวันทำคะแนนได้ดีกว่าอีกกลุ่มตั้งเยอะ

          คำอธิบายก็คือ การนอนช่วยให้สมองลบข้อมูลที่เป็นความจำระยะสั้นทิ้งไป เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับบันทึกข้อมูลใหม่ ๆ "มันเหมือนกับกล่องอีเมล์ในฮิปโปแคมปัสของคุณมันเต็มแล้ว ถ้าไม่นอนหลับเพื่อลบอีเมล์พวกนั้น คุณก็จะรับอีเมล์ใหม่ ๆ ไม่ได้ "

          ด้วยการวัดทางไฟฟ้าที่สมอง นักวิทยาศาสตร์พบว่า กระบวนการปรับความจำใหม่นี้เกิดขึ้น ในช่วงระหว่างการหลับลึกกับช่วงที่เราฝัน ซึ่งเรียกว่า อาร์อีเอ็ม หรือ rapid eye movement

          คนทั่วไปใช้เวลาครึ่งหนึ่งของการนอนหลับไปกับการนอนช่วงนี้ ซึ่งเรียกว่า ช่วงการนอนขั้นที่สอง

          งานวิจัยยังพบด้วยว่า เด็กที่ใช้เวลาตลอดทั้งคืนอ่านหนังสือเตรียมสอบ มีความสามารถในการจดจำข้อมูลใหม่ ๆ ลดลงถึง 40%

          รู้อย่างงี้แล้ว แอบงีบหลับช่วงเที่ยงกันดีกว่า


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



ผมไม่ได้สนับสนุนให้อู้งานนะครับ
แค่อยากเห็นทุกคนมีสุขภาพดี

สุดท้ายผมขอฝากเรื่องข้อต่อและกระดูกไว้ด้วยครับ
เพราะปัจจุบันนี้โรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก
เป็นภัยเงียบที่น่ากลัวผมไม่อยากเห็นเพื่อนๆ
หรือคนที่เพื่อนๆรักป่วยเป็นโรคเหล่านี้
เพราะมันอาจจะรุนแรงถึงขั้นเดินไม่ได้เลยนะครับ
ยังไงผมก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย
ด้วยความห่วงใยจากผม
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ
สวัสดีครับ
สนใจแนวทางป้องกัน ดูแลสุขภาพของข้อเข่าและข้อต่อต่างๆในร่างกาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

13 วิธีชำระกายสบายสุขภาพ

อาบน้ำ

13 วิธีชำระกายสบายสุขภาพ (Woman Plus)

          เราขอแนะนำ 13 ข้อปฏิบัติเรื่องน้ำ ๆ ที่จะทำให้คุณมีสุขอนามัยมาฝาก
 
           1.หลีกเลี่ยงการอยู่ในฝูงชนจำนวนมาก เพราะน้ำคือ หนึ่งในพาหะที่สามารถถ่ายเทเชื้อโรคจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกบุคคลหนึ่งได้รวดเร็วทั้งทางผิวหนัง และการดื่มกิน

           2.เชื้อโรคที่ติดต่อกันทางสัมผัส ถือเป็นภัยเงียบที่คุกคาม โรคตาแดง ท้องร่วง ไข้หวัด ล้วนสืบเนื่องมาจากการดูแลตัวเองให้สะอาดตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า สามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงการสะสมของแบคทีเรียที่จะก่อให้เกิดเชื้อโรคต่าง ๆ 

          วิธีที่ดีที่สุดคือ การดูแลร่างกายให้สะอาดหมดจดด้วยการอาบน้ำอย่างถูกวิธี

          3.ควรเริ่มอาบน้ำจากบริเวณปลายมือ หรือปลายเท้า เพื่อปรับอุณหภูมิในร่างกาย ก่อนจะราดน้ำอาบทั้งตัว

          4.ควรเช็กอุณหภูมิของน้ำให้พอดีกับอุณหภูมิในร่างกาย เช่น ถ้าเพิ่งออกกำลังกายมาใหม่ ๆ อย่าเพิ่งแช่น้ำเย็นจัดในทันที ธรรมชาติของร่างกายจะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิลงสู่ระดับที่เหมาะสม

          5.ควรอาบน้ำให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น ถ้าเป็นคนผิวแห้งมีผื่นคันขึ้นง่าย ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือร้อนจัด เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง

          6.การแช่บ่อน้ำพุร้อน นอกเหนือจากการอาบน้ำทำความสะอาดผิวแล้ว อุณหภูมิของน้ำในบ่อน้ำร้อน ยังสามารถช่วยคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ คืนความสดชื่นไปพร้อม ๆ กับการบำรุงผิว ด้วยประโยชน์อันหลากหลายของแร่ธาตุนานาชนิด

          7.ก่อนอาบน้ำ ลองขัดผิวโดยการจับปลายผ้าขนหนูแห้งไว้ทั้ง 2 ข้าง แล้วเริ่มถูไปตามร่างกาย จุดละประมาณ 20 ครั้ง เพื่อขจัดคราบไคล ฝุ่นละอองต่าง ๆ รวมทั้งเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไป

          8.การอาบน้ำเย็น ควรให้อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 21-27 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยลดอาการอ่อนเพลียของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง รวมถึงช่วยเรื่องระบบหายใจให้ดีขึ้น

          9.การอาบน้ำจากชาเขียว กำลังเป็นที่นิยม เพราะเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความร้อนภายในหรืออาการไข้ รวมทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้อ โรคติดต่อต่าง ๆ นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการปวด และทำให้ผิวพรรณดีขึ้น

          10.เหงื่อมีสาร "เดอร์ เมดิซีน" มีสรรพคุณช่วยปกป้องผิวหนังจากการอักเสบ ที่ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นคันมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ก่อนที่แบคทีเรียจะทำอันตรายกับผิว การอาบน้ำล้างหน้าบ่อย ๆ จึงทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังง่ายขึ้น การอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จึงดีที่สุด

          11.สารระคายเคืองต่อผิวหนัง คือสิ่งที่จะทำให้ยาฆ่าเชื้อบนผิวหนังถูกกำจัด การเลือกซื้อน้ำยาต่าง ๆ ควรเลือกชนิดที่ไม่ทำความระคายเคืองให้กับผิวหนัง สังเกตได้หลังจากการใช้ จะทำให้ผิวแห้งผากและเกิดอาการคัน



          12.วิธีทดสอบยาสีฟัน เพื่อจะได้รู้ว่ายาสีฟันนั้นใส่สารที่ทำลายเคลือบฟันรุนแรงหรือไม่ ให้นำยาสีฟันที่คุณใช้มาบีบขนาดประมาณเม็ดข้าวโพด ถูไปถูมาบนปฏิทินตั้งโต๊ะประมาณ 20 ครั้ง ถ้าสีของปฏิทินซีดจางเป็นสีขาว แสดงว่ายาสีฟันที่คุณใช้มีสารทำลายเคลือบฟันในปริมาณมาก ถ้าใช้ไปนาน ๆ จะทำให้ฟันกร่อน ฟันจะบางลง เกิดอาการเสียวฟันตามมา หรือบีบขนาดประมาณเม็ดข้าวโพดลงในแก้ว แล้วเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยคนให้เข้ากัน หยดสารละลายไอโอดีนลงไป ถ้าน้ำเปลี่ยนเป็นสีดำหรือม่วงแสดงว่ายาสีฟันนั้นมีแป้งผสมอยู่

          13.วิธีทดสอบครีมอาบน้ำ นำครีมอาบน้ำหรือเจลเทใส่แก้วเล็กน้อย แล้วนำเกลือเทลงในแก้วคนให้
เข้ากัน ถ้าเกลือไม่ละลายจับตัวเป็นก้อนกับครีมอาบน้ำ แสดงว่าครีมอาบน้ำยี่ห้อนั้นไม่สามารถทำความสะอาดผิว หลังจากนั้นให้นำน้ำเปล่าเทใส่แก้วที่มีเกลือกับครีมที่ได้ผสมไว้ ถ้าเกลือไม่ละลายแล้วครีมยังลอยตัวเป็นก้อนอยู่ แสดงว่าเวลาคุณล้างครีมออก มันจะติดอยู่ที่ผิว ทำให้ผิวแห้งเหี่ยวในอนาคต

          สุขภาพเป็นสิ่งที่เราสามารถวางแผนจัดการเพื่อให้เกิดสุขอนามัยได้ และการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข การแก้ไขย่อมดีกว่าการเพิกเฉย 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



รู้อย่างนี้แล้วลองดูเลยครับอย่ารีรอ

สุดท้ายผมขอฝากเรื่องข้อต่อและกระดูกไว้ด้วยครับ
เพราะปัจจุบันนี้โรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก
เป็นภัยเงียบที่น่ากลัวผมไม่อยากเห็นเพื่อนๆ
หรือคนที่เพื่อนๆรักป่วยเป็นโรคเหล่านี้
เพราะมันอาจจะรุนแรงถึงขั้นเดินไม่ได้เลยนะครับ
ยังไงผมก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย
ด้วยความห่วงใยจากผม
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ
สวัสดีครับ
สนใจแนวทางป้องกัน ดูแลสุขภาพของข้อเข่าและข้อต่อต่างๆในร่างกาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

ดูแลความรักให้ยืดยาว



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         ความรัก...เมื่อก่อตัวขึ้นใช่ว่าจะจบลงอย่างสวยงาม เฉกเช่นนิยายหวานแหววโรแมนติกเสมอไป เพราะหากคู่รักไม่ทะนุถนอม เอาใจใส่ ดูแลซึ่งกันและกัน ความหวานอาจแปรเปลี่ยนเป็นความขมระทมใจก็ได้ เพราะฉะนั้น ลองมาดูวิธีการดูแลรักษาความรักของคุณ ให้สวยสดงดงามเสมอกันดีกว่า...

 ไม่ควรคาดหวังกับความรัก

         เพราะความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก จึงเอาแน่เอานอนไม่ได้ อย่าคาดหวังว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ เพราะหากผิดหวังจะเสียใจเปล่า ๆ ทางที่ดีควรปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า และอย่าเขินที่จะบอกรัก เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าคุณจะบอกคำว่า "รัก" ให้กับคนที่คุณรู้สึกดีด้วย รวมถึงอย่าอายที่จะขอโทษ เพราะการขอโทษไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอะไร

 รู้จักที่จะใช้ภาษากาย

         เพราะการสัมผัสร่างกาย เช่น จับมือ กอด รูปหลัง สามารถสื่อความในใจของเราได้ดีกว่าคำพูดหลายเท่าเชียว หรือจดจำรายละเอียด เช่น ชอบทำกิจกรรมอะไร ชอบรับประทานอะไร  หรือชอบฟังเพลงแนวไหน แล้วหยิบยื่นสิ่งเหล่านี้ให้เสมอ

 ซื่อสัตย์และไว้ใจกันซึ่งกันและกัน 
         อีกทั้งให้เกียรติกันและกันเสมอ ไม่ก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวของกันและกันมากเกินจำเป็น อย่าทำให้เขารู้สึกว่าไม่สิทธิ์ที่จะทำอะไร การนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอ จะช่วยทำความคุณแคร์กันและกันมากขึ้น 

 ห้ามโกหก

         เพราะจะไม่สามารถเชื่อใจกันได้อีก พูดกันตรง ๆ แต่ก็ต้องเลือกใช้คำที่ไม่ทำร้ายจิตใจ ที่สำคัญเมื่อมีปัญหาควรใช้เหตุผลในการพูดคุย อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือความรัก นึกถึงเรื่องดี ๆ ที่เขาเคยทำให้เรา ความโกรธหรืออารมณ์ชั่ววูบจะค่อย ๆ เบาบางลง

 อย่าคาดคั้นหาคำตอบ
          เพราะบางครั้งการที่เราดึงดันหาเหตุผล หาคำตอบ มันเป็นการกดดันอีกฝ่ายอย่างไม่มีประโยชน์ หากเราและเขาอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ลองถอยออกมา 1 ก้าว ทำใจให้สงบ รอจนกว่าทั้งคุณทั้งคู่จะพร้อม แล้วค่อยกลับมาคุยอีกครั้ง

 ให้โอกาสและให้อภัย 
         ถ้าอีกฝ่ายทำอะไรผิดควรให้โอกาสในการแก้ไขข้อผิดพลาดนั้น แต่ถ้าผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องเดิม ๆ ก็ไม่ควรให้โอกาสเขาจนทำให้เราเจ็บปวดซะเอง เพราะความรักจะงดงาม หากคุณรักตัวเองก่อนที่จะไปรักคนอื่น

         ง่าย ๆ เพียงเท่านี้ ความรักของคุณยั้งยืนยาวนานแล้วล่ะค่ะ...

ขอขอบคุณกระปุกดอทคอมครับ

ดูแลกันและกันจะได้อยู่กันไปนานๆ
อะไรที่เค้าทำพลาดไปตัวเองก้อภัยให้เค้าด้วยนะเค้าขอโทษจ้า
สุดท้ายผมขอฝากเรื่องข้อต่อและกระดูกไว้ด้วยครับ
เพราะปัจจุบันนี้โรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก
เป็นภัยเงียบที่น่ากลัวผมไม่อยากเห็นเพื่อนๆ
หรือคนที่เพื่อนๆรักป่วยเป็นโรคเหล่านี้
เพราะมันอาจจะรุนแรงถึงขั้นเดินไม่ได้เลยนะครับ
ยังไงผมก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย
ด้วยความห่วงใยจากผม
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ
สวัสดีครับ
สนใจแนวทางป้องกัน ดูแลสุขภาพของข้อเข่าและข้อต่อต่างๆในร่างกาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

กำจัดพุงซะ ด้วยเทคนิคเด็ดเหล่านี้

ลดพุง วิธีลดพุง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          สาว ๆ ที่มีปัญหาไขมันหน้าท้องสะสมมากจนกลายเป็นพุงน้อย ๆ ชวนรำคาญใจ เทคนิคต่อไปนี้ จะช่วยกำจัดไขมันรอบเอวของคุณออกไปได้ค่ะ

 1.ออกไปวิ่งซะ!

          เพราะการออกกำลังกายคือวิธีที่ดีและปลอดภัยที่สุด ในการกำจัดไขมันบริเวณหน้าท้องที่เราไม่ต้องการออกไป ลองออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ไม่ว่าจะเป็นการจ้อกกิ้ง วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเล่นกีฬาที่ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงทุก ๆ วัน หรือสัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อให้หัวใจได้สูบฉีดเลือด และเหงื่อออก เกิดการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน

 2.เปลี่ยนไลฟ์สไตล์เสียใหม่

          หากชีวิตประจำวันของคุณไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวเท่าไหร่นัก จะทำให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายทำงานช้าลง เช่นนั้นแล้ว แม้ว่าคุณจะเป็นคนทานน้อย แต่แคลอรีส่วนเกินก็ไม่ได้ถูกกำจัดออกไปอยู่ดี จึงทำให้คุณอ้วนได้ 

          ดังนั้นจงเปลี่ยนตัวเองให้ได้เคลื่อนไหวมากขึ้น เช่นการทำงานบ้าน หรือถ้างานของคุณจำเป็นต้องนั่งบนเก้าอี้ตลอดทั้งวัน ก็ควรหาโอกาสลุกเดินทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง หรืออาจจะเดินขึ้นบันไดก็ได้ จำไว้ว่า พยายามเคลื่อนไหวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 3.ดื่มน้อย ๆ หน่อย

          แอลกอฮอล์คือศัตรูตัวร้ายของความพยายามในการลดน้ำหนักเลยทีเดียว หากคุณดื่มทุก ๆ วัน ไม่เพียงแต่จะส่งผลเสียต่อตับ แอลกอฮอล์ยังจะไปเพิ่มไขมันฝากไว้ในช่องท้องของคุณด้วย แน่นอน คุณสามารถจะดื่มได้บ้างเป็นบางโอกาส แต่อย่าให้แอลกอฮอล์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตเชียวล่ะ

 4.บริหารกล้ามเนื้อให้หุ่นฟิต

          ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ จะเป็นวิธีเดียวที่ช่วยกำจัดไขมันรอบเอวให้คุณได้ แต่คุณก็จำเป็นต้องสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น ด้วยการออกกำลังกายแบบ Toning Exercise เช่น การออกกำลังกายด้วยท่าครันช์ ยกดัมบ์เบล และการซิทอัพ ซึ่งแม้มันจะไม่ช่วยกำจัดไขมันรอบเอว แต่เพื่อให้ร่างกายของคุณกระชับ และดูมีสุขภาพดี ลองออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ คุณจะเห็นถึงความแตกต่าง


ขอขอบคุณกระปุกดอทคอม
อ่านแล้วก็อย่าลืมไปทำนะครับ
และท้าตั้งใจจะทำแล้วก็อย่า
ผลัดวันประกันพรุ่งนะครับ
ไม่งั้นพุงมันก็จะยังอยู่เหมือนเดิมนะจะบอกให้

สุดท้ายผมขอฝากเรื่องข้อต่อและกระดูกไว้ด้วยครับ
เพราะปัจจุบันนี้โรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก
เป็นภัยเงียบที่น่ากลัวผมไม่อยากเห็นเพื่อนๆ
หรือคนที่เพื่อนๆรักป่วยเป็นโรคเหล่านี้
เพราะมันอาจจะรุนแรงถึงขั้นเดินไม่ได้เลยนะครับ
ยังไงผมก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย
ด้วยความห่วงใยจากผม
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ
สวัสดีครับ
สนใจแนวทางป้องกัน ดูแลสุขภาพของข้อเข่าและข้อต่อต่างๆในร่างกาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

แม่เหมียวโคลัมเบียใจบุญ รับเลี้ยงลูกกระรอกกำพร้า

ข่าวบันเทิง หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 00:00:00 น.
โบโกตา - 'ติตา' แม่แมวใจดีจากโคลัมเบีย เลี้ยงลูกกระรอกกำพร้าแรกเกิด พร้อมกับลูกเหมียวของตัวเอง จนลูกสัตว์ 2 ตัวกลายเป็นเพื่อนรักกัน แม้จะต่างสายพันธุ์

ลูกแมวและลูกระรอกอยู่ในอ้อมอกของแม่เหมียวติตามานาน พวกมันดูดนมจากเต้าเดียวกัน และใช้เวลาตลอดทั้งวันวิ่งเล่นซุกซนไปทั่วบ้าน

รูเบน กาวีเรีย เจ้าของบ้าน เล่าว่า พบเจ้ากระรอกน้อยนอนได้รับบาดเจ็บอยู่ในสวนสาธารณะของหมู่บ้าน ก่อนจะพามันมาที่บ้านเพื่อรักษาตัว โดยมีแม่เหมียวและลูกแมวเป็นเพื่อนคอยดูแลจนมันหายดี

แมว ใจดีเลี้ยง ลูกกระรอก

แมว ใจดีเลี้ยง ลูกกระรอก

Click here to see a large version

แมว ใจดีเลี้ยง ลูกกระรอก

แมว ใจดีเลี้ยง ลูกกระรอก

แมว ใจดีเลี้ยง ลูกกระรอก

แมว ใจดีเลี้ยง ลูกกระรอก

แมว ใจดีเลี้ยง ลูกกระรอก

Click here to see a large version

แมว ใจดีเลี้ยง ลูกกระรอก

ขอขอบคุณ



ขอขอบคุณhttp://makorns.com/?p=405