วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

13 วิธีชำระกายสบายสุขภาพ

อาบน้ำ

13 วิธีชำระกายสบายสุขภาพ (Woman Plus)

          เราขอแนะนำ 13 ข้อปฏิบัติเรื่องน้ำ ๆ ที่จะทำให้คุณมีสุขอนามัยมาฝาก
 
           1.หลีกเลี่ยงการอยู่ในฝูงชนจำนวนมาก เพราะน้ำคือ หนึ่งในพาหะที่สามารถถ่ายเทเชื้อโรคจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกบุคคลหนึ่งได้รวดเร็วทั้งทางผิวหนัง และการดื่มกิน

           2.เชื้อโรคที่ติดต่อกันทางสัมผัส ถือเป็นภัยเงียบที่คุกคาม โรคตาแดง ท้องร่วง ไข้หวัด ล้วนสืบเนื่องมาจากการดูแลตัวเองให้สะอาดตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า สามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงการสะสมของแบคทีเรียที่จะก่อให้เกิดเชื้อโรคต่าง ๆ 

          วิธีที่ดีที่สุดคือ การดูแลร่างกายให้สะอาดหมดจดด้วยการอาบน้ำอย่างถูกวิธี

          3.ควรเริ่มอาบน้ำจากบริเวณปลายมือ หรือปลายเท้า เพื่อปรับอุณหภูมิในร่างกาย ก่อนจะราดน้ำอาบทั้งตัว

          4.ควรเช็กอุณหภูมิของน้ำให้พอดีกับอุณหภูมิในร่างกาย เช่น ถ้าเพิ่งออกกำลังกายมาใหม่ ๆ อย่าเพิ่งแช่น้ำเย็นจัดในทันที ธรรมชาติของร่างกายจะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิลงสู่ระดับที่เหมาะสม

          5.ควรอาบน้ำให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น ถ้าเป็นคนผิวแห้งมีผื่นคันขึ้นง่าย ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือร้อนจัด เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง

          6.การแช่บ่อน้ำพุร้อน นอกเหนือจากการอาบน้ำทำความสะอาดผิวแล้ว อุณหภูมิของน้ำในบ่อน้ำร้อน ยังสามารถช่วยคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ คืนความสดชื่นไปพร้อม ๆ กับการบำรุงผิว ด้วยประโยชน์อันหลากหลายของแร่ธาตุนานาชนิด

          7.ก่อนอาบน้ำ ลองขัดผิวโดยการจับปลายผ้าขนหนูแห้งไว้ทั้ง 2 ข้าง แล้วเริ่มถูไปตามร่างกาย จุดละประมาณ 20 ครั้ง เพื่อขจัดคราบไคล ฝุ่นละอองต่าง ๆ รวมทั้งเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไป

          8.การอาบน้ำเย็น ควรให้อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 21-27 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยลดอาการอ่อนเพลียของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง รวมถึงช่วยเรื่องระบบหายใจให้ดีขึ้น

          9.การอาบน้ำจากชาเขียว กำลังเป็นที่นิยม เพราะเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความร้อนภายในหรืออาการไข้ รวมทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้อ โรคติดต่อต่าง ๆ นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการปวด และทำให้ผิวพรรณดีขึ้น

          10.เหงื่อมีสาร "เดอร์ เมดิซีน" มีสรรพคุณช่วยปกป้องผิวหนังจากการอักเสบ ที่ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นคันมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ก่อนที่แบคทีเรียจะทำอันตรายกับผิว การอาบน้ำล้างหน้าบ่อย ๆ จึงทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังง่ายขึ้น การอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จึงดีที่สุด

          11.สารระคายเคืองต่อผิวหนัง คือสิ่งที่จะทำให้ยาฆ่าเชื้อบนผิวหนังถูกกำจัด การเลือกซื้อน้ำยาต่าง ๆ ควรเลือกชนิดที่ไม่ทำความระคายเคืองให้กับผิวหนัง สังเกตได้หลังจากการใช้ จะทำให้ผิวแห้งผากและเกิดอาการคัน



          12.วิธีทดสอบยาสีฟัน เพื่อจะได้รู้ว่ายาสีฟันนั้นใส่สารที่ทำลายเคลือบฟันรุนแรงหรือไม่ ให้นำยาสีฟันที่คุณใช้มาบีบขนาดประมาณเม็ดข้าวโพด ถูไปถูมาบนปฏิทินตั้งโต๊ะประมาณ 20 ครั้ง ถ้าสีของปฏิทินซีดจางเป็นสีขาว แสดงว่ายาสีฟันที่คุณใช้มีสารทำลายเคลือบฟันในปริมาณมาก ถ้าใช้ไปนาน ๆ จะทำให้ฟันกร่อน ฟันจะบางลง เกิดอาการเสียวฟันตามมา หรือบีบขนาดประมาณเม็ดข้าวโพดลงในแก้ว แล้วเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยคนให้เข้ากัน หยดสารละลายไอโอดีนลงไป ถ้าน้ำเปลี่ยนเป็นสีดำหรือม่วงแสดงว่ายาสีฟันนั้นมีแป้งผสมอยู่

          13.วิธีทดสอบครีมอาบน้ำ นำครีมอาบน้ำหรือเจลเทใส่แก้วเล็กน้อย แล้วนำเกลือเทลงในแก้วคนให้
เข้ากัน ถ้าเกลือไม่ละลายจับตัวเป็นก้อนกับครีมอาบน้ำ แสดงว่าครีมอาบน้ำยี่ห้อนั้นไม่สามารถทำความสะอาดผิว หลังจากนั้นให้นำน้ำเปล่าเทใส่แก้วที่มีเกลือกับครีมที่ได้ผสมไว้ ถ้าเกลือไม่ละลายแล้วครีมยังลอยตัวเป็นก้อนอยู่ แสดงว่าเวลาคุณล้างครีมออก มันจะติดอยู่ที่ผิว ทำให้ผิวแห้งเหี่ยวในอนาคต

          สุขภาพเป็นสิ่งที่เราสามารถวางแผนจัดการเพื่อให้เกิดสุขอนามัยได้ และการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข การแก้ไขย่อมดีกว่าการเพิกเฉย 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



รู้อย่างนี้แล้วลองดูเลยครับอย่ารีรอ

สุดท้ายผมขอฝากเรื่องข้อต่อและกระดูกไว้ด้วยครับ
เพราะปัจจุบันนี้โรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก
เป็นภัยเงียบที่น่ากลัวผมไม่อยากเห็นเพื่อนๆ
หรือคนที่เพื่อนๆรักป่วยเป็นโรคเหล่านี้
เพราะมันอาจจะรุนแรงถึงขั้นเดินไม่ได้เลยนะครับ
ยังไงผมก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย
ด้วยความห่วงใยจากผม
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ
สวัสดีครับ
สนใจแนวทางป้องกัน ดูแลสุขภาพของข้อเข่าและข้อต่อต่างๆในร่างกาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น